Last updated: 15 ธ.ค. 2564 | 1061 จำนวนผู้เข้าชม |
เลี้ยงลูกให้ติดดิน
“มาม๊า หนูขอขึ้นรถเมล์ได้มั้ยค่ะ”
คำถามนี้ ลูกถามแม่กรีนตอนที่เค้าอายุสามขวบ ขณะนั่งในรถกับแม่ แม่กรีนรับปากลูกว่าจะพาขึ้นในวันที่สะดวก และวันนั้นก็มาถึง โดยไม่ได้มีเวลาเตรียมพร้อม วันนั้นระหว่างทางที่เราเดินไปซื้อของ ฝนตกหนัก เราแม่ลูกอยู่ใกล้ป้ายรถประจำทาง ตัดสินใจตอนนั้น โบกรถขึ้นทันที เด็กน้อยตื่นเต้นและได้เรียนรู้ที่จะอดทนระหว่างรอโบกรถขากลับ ระหว่างเดินหาป้ายรถเพื่อต่อรถเมล์ และรู้ว่า เราเดินทางได้หลายแบบแม้จะไม่มีรถส่วนตัว เค้าได้เรียนรู้ว่า ความสุขเกิดขึ้นได้แค่มีกันและกัน ไม่มีรูปแบบ ไม่มีสิ่งให้ยึดติด ถ้าจะติด แม่กรีนขอให้ลูกเป็นคนธรรมดาที่ติดดิน มีหัวใจที่เบาสบาย เพื่อเติบโตอย่างมีความสุข
แล้วในสังคมเมืองปัจจุบัน เราจะเลี้ยงยังไงให้ติดดินนะ ลองดูกันค่ะ
1.พาเด็กอยู่กับธรรมชาติบ่อย ๆ – การเลี้ยงลูกให้เขาได้สัมผัสกับธรรมชาติ เช่น การพาไปเที่ยวตามสวนสัตว์ พาไปชายทะเล ป่าโกงกาง ก่อเกิดความคุ้นชิน และชื่นชอบความสงบจากธรรมชาติ กลิ่นไอดิน ไอน้ำ ไม่ยึดติดกับแอร์ หรือสภาพแวดล้อมที่แต่งเติม มีสีสันที่กระตุ้นความอยากต่างๆ จนเพลิน และขาดความมั่นคงทางใจในระยะยาว
2.ทำอาหารทานกันในครอบครัว – ปลูกพืชสวนครัว , ชวนเก็บดอกเข็มมาชุบแป้งทอด , ช่วยกันเด็ดใบตำลึง , เก็บผักมาทำสลัด ,ทานขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมกล้วย ขนมใส่ไส้ ขนมตาล เมื่อเด็กชอบ อาหารและขนมพื้นบ้าน จะหลงใหลไปกับกลิ่นและรูปลักษณ์ขนมสำเร็จรูปได้ยากขึ้น หรือทานแค่นานๆทีครั้ง และรู้จักอยู่กับสิ่งที่มีให้กินรอบตัวตามวิถีพอเพียงของพ่อหลวง
3.เปิดโอกาสให้ลูกเล่นในแบบของตนเองตามธรรมชาติ – ปล่อยให้เค้ามีอิสระเล่นกับสังคมเด็กที่หลากหลาย บางครั้งอาจมีเด็กที่แตกต่างจากที่เราคาดหวัง แต่เราก็สามารถสอนและแนะนำลูกเราได้ และโดยธรรมชาติแล้วเด็กยังเล็กจะมีใจที่ใสสะอาดเป็นทุนเดิม เราแนะนำและปรับกันได้ไม่ยาก ขอให้เค้าไม่แยกคนในสังคมออกเป็นกลุ่มๆตามอัตตาของตัวเองก็พอค่ะ ชวนกันเล่นดินเล่นทราย เล่นซ่อนแอบ แบบยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์ เอาของเล่นธรรมชาติเป็นตัวเชื่อม ลดความรู้สึกน้อยใจหรือเปรียบเทียบของเด็กที่อาจมีมากน้อยต่างกันไป
4.เมื่อเลือกซื้อของใช้ลูก เลือกจากสิ่งที่เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ยึดติดแบรนด์ ส่งเสริมให้เด็กเลือกด้วยเหตุผลและความจำเป็น
5.พาไปจ่ายตลาดด้วยกัน ในตลาดสด ให้เรียนรู้อดทนต่อกลิ่น ต่ออากาศร้อน ต่อพื้นที่เฉอะแฉะ ไม่รังเกียจต่อสิ่งต่างๆจนเกินไป แต่ก่อนไปควรสอนเรื่องการระวังหม้อร้อน หรือสิ่งอันตรายต่างๆไว้ก่อนก็ดีค่ะ ไม่รังเกียจแต่ควรมีทักษะดูแลความปลอดภัยของตนเอง
6.ให้เดินเท้าเปล่า ในพื้นที่ธรรมชาติที่ปลอดภัย สัมผัสหญ้า สัมผัสดิน สัมผัสทราย รับรู้ถึงความอ่อนนุ่ม แทรกซึมความสุขผ่านอุ่นไอธรรมชาติ
7.พาไปแบ่งบันน้ำใจ ทำบุญ หรือช่วยเหลือคนและสัตว์ เป็นประจำ เค้าจะลดการมองในมุมของตัวเองลง และเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก รับผิดชอบต่อสังคมค่ะ
เด็กที่โตขึ้นมาเป็นคนธรรมดาที่ติดดิน จะหวั่นไหวต่อสิ่งกระทบได้น้อย และรู้ทันชีวิตของตนเอง เค้าจะโตขึ้นมาด้วยใจที่มั่นคงและเป็นสุขเสมอค่ะ
12 ก.ค. 2561
28 ม.ค. 2562
21 ธ.ค. 2564
21 ม.ค. 2564