#งานวิจัยชี้!!! #เด็กเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นเพราะ...

Last updated: 2 ธ.ค. 2564  |  1168 จำนวนผู้เข้าชม  | 

#งานวิจัยชี้!!! #เด็กเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นเพราะ...

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนเด็กภูมิแพ้ เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษา รวบรวมงานวิจัยผลกระทบของสิ่งแวดล้อมปัจจุบันต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็ก และสรุปว่า ปัจจัยภายนอกน่าจะมีผลต่อการเกิดโรคภูมิแพ้จริง โดยมีดังนี้ค่ะ

1.จุลินทรีย์และสิ่งแวดล้อมที่เด็กสัมผัส


-การคลอดทางช่องคลอด จะทำให้เด็กทารกได้สัมผัสกับแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย คือ Lactobacillus ในช่องคลอดของมารดา ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ ส่วนเด็กที่คลอดโดยการผ่าคลอดจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้น


-การให้นมแม่ เด็กที่ทานนมแม่จะมีแบคทีเรียที่ดี เช่น Bifidobacterium อยู่ในทางเดินอาหารมากกว่า เด็กที่ทานนมวัว และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ลงได้


-การเลี้ยงเด็กในพื้นที่สีเขียวตั้งแต่วัยเด็กเล็ก ทำให้เด็กได้สัมผัสกับ endotoxin ซึ่งมีการศึกษาอย่างชัดเจนว่าช่วยลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้


-การติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะ RSV และ HRV ตั้งแต่ในเด็กเล็ก จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหืดเมื่อโตขึ้น


-การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่จำเป็นในทารก จะทำให้ปริมาณแบคทีเรียที่ดีในร่างกายลดลง จึงเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคภูมิแพ้ได้


2.สารก่อภูมิแพ้ในบ้าน


-ไรฝุ่น แมลงสาบ หนู และเชื้อรา หากสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเหล่านี้ในปริมาณมากก่อนอายุ 5 ปี จะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะโรคหืดได้


-สัตว์เลี้ยงได้แก่สุนัขและแมว การศึกษาในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงเหล่านี้จะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงหรือช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้กันแน่ เพราะมีหลายการศึกษาวิจัยที่ผลขัดแย้งกัน

3.มลภาวะ

-มลภาวะในอากาศ มีการศึกษาวิจัยที่สรุปผลอย่างชัดเจนว่าการสัมผัสกับมลภาวะต่างๆ โดยเฉพาะมลภาวะที่เกิดจากการจราจร เช่นก๊าซพิษบนท้องถนนต่าง ๆ หรือมลภาวะจากโรงงานอุตสาหกรรม จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคหืดหรือหลอดลมไวในเด็ก


-ควันบุหรี่ 

 

จากงานวิจัย  มีหลายปัจจัยที่เราควบคุมได้ยากใช่ไหมค่ะ  แต่เราก็สามารถทำดีที่สุดเท่าที่จะป้องกันได้   เช่น  เลี่ยงการพาลูกไปในที่ชุมชน ห้างสรรพสินค้าตั้งแต่ยังเล็ก  เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะ   ,   สวมหน้ากากกัน PM2.5 ให้ลูกน้อย ,  พาลูกไปในสวนสาธารณะที่อากาศบริสุทธิ์เป็นประจำ   , ให้ทานนมแม่นานเท่าที่ทำได้  

นอกจากการควบคุมหรือหลีกเลี่ยงปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นอาการภูมิแพ้แล้ว   แนะนำให้พาเด็กๆวัย 3-5 ขวบ ออกกำลังกายระดับกลางถึงหนักอย่างน้อย 1 ชั่วโมงเป็นประจำทุกวัน  ควบคู่กับอาหาร 5 หมู่ และการนอนหลับที่เพียงพอ  ก็จะช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้ค่ะ     หรือหากคุณพ่อคุณแม่ต้องการหาตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันน้องต้านอาการน้ำมูก อาการหวัด   แนะนำเสริมด้วยวิตามินเด็กเอ็กซไคแน๊กพลัส  วิตามินสูตรธรรมชาติที่ได้รับการยืนยันผลกว่าร้อยรีวิวจริงจากแพทย์ เภสัชกร คุณพ่อคุณแม่  และมีใบรับรองยืนยันไม่มีสเตียรอยด์แน่นอนค่ะ

เอกสารอ้างอิง : Burbank AJ, Sood AK, Kesic MJ, Peden DB, Hernandez ML. Environmental determinants of allergy and asthma in early life. J Allergy Clin Immunol. 2017;140:1-12.

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้