ออกกำลังแบบไหน ลดภูมิแพ้ถึง 80%

Last updated: 14 ธ.ค. 2564  |  519 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ออกกำลังแบบไหน ลดภูมิแพ้ถึง 80%

น้ำมูกไหล คัดจมูก อาการกวนใจสำหรับ เด็กที่มีอาการภูมิแพ้    แม้จะเป็นอาการที่ไม่หนัก  แต่เมื่อเป็นอยู่เรื่อยๆเป็นประจำ  คุณพ่อคุณแม่อย่างเรา ก็อดไม่ได้ที่จะสงสารเด็กๆ     และหากปล่อยให้เด็กๆมีอาการภูมิแพ้เรื้อรัง ก็อาจรบกวนชีวิตประจำวัน  ไม่ว่าจะเป็นลดช่วงเวลาสนุกแห่งการเรียนรู้  หรือช่วงเวลาที่ควรได้นอนหลับพักผ่อนอย่างมีคุณภาพเพื่อการเติบโตสมวัย

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงอรพรรณ โพชนุกูล หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคระบบทางเดินหายใจ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวไว้ว่า

“หากไม่รับการรักษาและดูแลตัวเองให้ดี ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนล่าง หรือโรคหอบหืดมากกว่าคนปกติถึง 3 เท่า และเสี่ยงต่อการเป็นภูมิแพ้ขั้นรุนแรง (Anaphylaxis) ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ รวมถึงอาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาอีก ไม่ว่าจะเป็นโรคไซนัสอักเสบ โรคริดสีดวงจมูก โรคหู ชั้นกลางอักเสบ ซึ่งล้วนเป็นโรคเรื้อรังที่ก่อความรำคาญทั้งสิ้น”

จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราช่วยเด็กๆหยุดภูมิแพ้ ด้วยวิธีง่ายๆ คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  

คุณหมออรพรรณ ท่าน แนะนำว่า “ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอครั้งละ 30 – 40 นาที สัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง จึงจะช่วยรักษาโรคภูมิแพ้และโรคพ่วงจากภูมิแพ้ให้หายขาดได้ โดยเฉพาะเด็กมีโอกาสหายถึง 80 เปอร์เซ็นต์ 

โดยมีงานวิจัยยืนยันชัดเจนว่า การออกกำลังกายสามารถรักษาโรคภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจและโรคพ่วงจากภูมิแพ้ได้ เนื่องจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด หัวใจ และทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เมื่อระบบทางเดินหายใจของคนไข้เป็นปกติ จะช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น ไม่มีเสมหะไหลลงคอ จึงไม่เป็นหวัดและติดเชื้อง่าย”

และจะดีขึ้นอีกมั้ย หากเราได้รู้ว่า ออกกำลังกายแบบไหน ชนิดใด จึงจะช่วยลดอาการภูมิแพ้อย่างได้ผลจริง

ศาสตราจารย์นายแพทย์อรรถ นานา ผู้อำนวยการวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ข้อคิดว่า “ควรเลือกออกกำลังกายที่มีความหนักระดับปานกลาง (Moderate – intensity Activities) ซึ่งมีการเต้นของหัวใจ 50 – 60 เปอร์เซ็นต์ของชีพจรสูงสุดจึงจะดีที่สุด เพราะช่วยลดอาการคัดจมูกทำให้จมูกโล่งขึ้น กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้อาการภูมิแพ้ส่วนบนและส่วนล่างดีขึ้น”

นอกจากนี้

คุณจรันตน์ จันทินมาธร นักวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังกล่าวแนะนำไว้ว่า “ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เพราะเป็นกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายสามารถดึงออกซิเจนมาใช้ได้มากขึ้น จึงช่วยให้กระบวนการทำงานของร่างกายทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบการไหลเวียนเลือด ระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท หรือการขับถ่าย ทำงานดีขึ้น”

จากข้อมูลที่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญแนะนำ  แม่กรีนขออนุญาติถ่ายทอด ในรูปแบบที่แม่กรีนพาลูกตนเองซึ่งเป็นภูมิแพ้ออกกำลัง และได้ผลดีค่ะ

1.เลือกออกกำลังในช่วงเวลาแดดอ่อนๆ เพื่อรับวิตามินดีร่วมด้วยในปริมาณที่เหมาะสม

2.ออกกำลังแบบคาร์ดิโอ  คือ ออกกำลังแบบที่หัวใจทำงานได้ดี  กระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจ   เช่น  วิ่ง ปั่นจักรยาน เตะบอล ว่ายน้ำ(หากสะดวก แนะนำสระว่ายน้ำเกลือ หรือสระที่ระดับคลอรีนไม่สูง   เพื่อความอ่อนโยนต่อระบบทางเดินหายใจของเด็ก)

3. ออกในระดับที่ได้เหงื่อ  เริ่มหายใจเหนื่อยขึ้น   โดยระยะเวลาการออก  30-60 นาที ต่อวัน ต่อเนื่องทุกวัน หรืออย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์

4.หลังออกกำลังเสร็จ แนะนำนั่งพัก ดื่มน้ำ  สักครู่ จึงค่อยอาบน้ำ  เพื่อปรับอุณหภูมิ และปรับอัตราการเต้นของหัวใจลงก่อน

คุณพ่อคุณแม่ลองทำพร้อมๆกับลูก แล้วคุณจะรู้เลยค่ะว่า หายใจโล่ง หายจากอาการคัดจมูกได้จริงๆ    และหากทำเป็นประจำ ระบบทางเดินหายใจ ระบบการไหลเวียนของเลือด  และระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของเด็กๆจะดีขึ้นแน่นอนค่ะ

นอกจากการออกกำลังกายแล้ว  สิ่งที่สำคัญอีก คือ การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ  และการทานอาหารตามโภชนาการ ในบทความก่อนๆ  

รวมถึงเสริมภูมิคุ้มกันด้วยเอ็กซไคแน๊กพลัส  ซึ่งเป็นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันสูตรธรรมชาติสำหรับเด็ก  ที่ได้รับการการันตีจากสองร้อยกว่ารีวิวจริงจากแพทย์ เภสัช  และคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

ด้วยรักและห่วงใย

#แม่กรีนเภสัชแม่กรีนกายภาพ

#เพจเลี้ยงลูกให้มีภูมิคุ้มกัน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้