#ภูมิแพ้ทางเดินหายใจโรคที่เด็กยุคใหม่เผชิญ

เรื่องกลุ้มใจเกี่ยวกับลูกๆ ของคุณพ่อคุณแม่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องอาการเจ็บป่วยจริงมั๊ยคะ และเมื่อกล่าวถึงโรคภัยไข้เจ็บของเด็กๆนั้นส่วนใหญ่ที่ พบมักจะมีอาการเป็นไข้ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกเสียเป็นส่วนมาก ซึ่งสาเหตุของอาการเหล่านี้ หลักๆมักเนื่องมาจากโรคภูมิแพ้ค่ะ และจำนวนผู้ที่ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้นี้ในปัจจุบันก็ทวีจำนวนมากขึ้น 3- 4 เท่าในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว โดยจะพบมากในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง เด็กๆที่ไม่สบายด้วยโรคภูมิแพ้นี้ส่วนหนึ่งมาจากภูมิคุ้มกันในร่างกายของเด็กที่ยังน้อยอยู่ หรืออาจเป็นที่ร่างกายของเขาไม่แข็งแรงมากพอที่จะต่อต้านสารแพ้ที่มากับความเปลี่ยนแปลงของอากาศ เช่น ความเย็น ความร้อน ความกดอากาศต่ำ หรือฝน ความชื้นได้นั่นเองค่ะ 

#ภูมิแพ้ คืออะไร
#โรคภูมิแพ้ คือโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายของเรานั้นตอบสนองต่อสารกระตุ้นมากผิดปกติค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เกสรดอกไม้ ฝุ่นผงในอากาศ ไรฝุ่น หรือแม้แต่แพ้จากอาหารที่เรากินเข้าไป และทำให้อวัยวะที่ได้รับสัมผัสจากสารก่อภูมิแพ้นั้นๆเกิดการอักเสบขึ้น โดยในเด็กจะพบว่ามักจะเป็นภูมิแพ้ทางเดินหายใจกันเสียส่วนใหญ่ค่ะ ซึ่งจะทำให้ลูกเกิดอาการคัน จมูก ไอ จาม โพรงจมูกบวม และมีน้ำมูกใสๆไหลออกมา และอาจจะมีไข้ร่วมด้วยค่ะ 

#โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจนั้น มีลักษณะของอาการแบ่งเป็น 4 ชนิด ได้แก่ 
1. ชนิดที่มีอาการทางน้ำมูก คือจะมีน้ำมูกใสๆไหลร่วมกับอาการจามและคัดจมูก
2. ชนิดที่มีอาการคัดจมูกเป็นหลัก โดยไม่มีน้ำมูกและอาการจาม 
3. ชนิดที่มีอาการทั้งน้ำมูกใสและอาการคัดจมูก 
4. ชนิดมีอาการเรื้อรังและต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยเพราะอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ โดยเด็กจะมาการไอเรื้อรัง มีการกระแอมบ่อยๆเพราะเสมหะ ไหลลงคอ รวมไปถึงบางคนอาจมีอาการเหล่านี้ร่วมกับอาการปวดศีรษะ ปากแห้ง หรือคันบริเวณหัวตาอย่างมาก เพราะการอักเสบลามไปถึงท่อน้ำตา
ซึ่งถ้าหากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีอาการเหล่านี้ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์นะคะ เนื่องจากหากปล่อยทิ้งไว้อาการอาจหนักขึ้นและลุกลามกลายเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น โรคหืด โรคหลอดลมตีบ ทอลซิลอักเสบ หรือแม้แต่โรคปอดค่ะ 

#วิธีรักษาโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า การรักษาโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจนี้ทางที่ดีจะต้องพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยค่ะ  โดยแพทย์จะซักประวัติอาการภูมิแพ้ของสมาชิกในครอบครัว สภาพแวดล้อมของบ้านและโรงเรียน รวมไปถึงอาจจะให้ทดสอบสารที่แพ้เพื่อดำเนินการรักษาต่อไปด้วย ในบางกรณีถ้าลูกๆมีอาการแพ้ เรื้อรังแพทย์อาจแนะนำให้ฉีดยาต้านอาการแพ้ร่วมกับการรักษาด้วยยาค่ะ โดยการฉีดยานี้ส่วนใหญ่จะต้องฉีดกันในระยะเวลาหลายเดือนจนกระทั่งหลายปีเลยก็มี ที่สำคัญจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงพอควรเลยล่ะค่ะ ดังนั้นคุณหมอจึงมักนิยมรักษาด้วยการให้ยาต้านอาการแพ้ มาให้ลูกรับประทานเพราะได้ผลดีราคาถูก แต่มีข้อเสียคือทำให้ง่วงซึม เด็กๆจึงไม่สามารถเรียนหนังสือตามปกติได้ แต่ตอนนี้มีสมุนไพรธรรมชาติ ที่เรียกว่า "ดอกไม้ต้านภูมิแพ้ ดอกไม้ต้านหวัดลูก" ที่มีชื่อว่า Echinacea (เอคไคนาเซีย/ อิชินาเซีย) ซึ่งเป็นสมุนไพรทางเลือกที่นิยมในการแพทย์ ยุโรป เสริมภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการแพ้ และอาการหวัดลงได้ และสามารถใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบันที่แพทย์สั่งจ่ายได้โดยไม่เกิดอันตรายด้วย รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมลองหามาให้ลูกๆ รับประทานดูนะคะ 


#แม่กรีนเภสัช #แม่กรีนกายภาพ #GreeneryHerbs
ติดตามบทความอื่นๆของเราได้ที่
FB : เพจเลี้ยงลูกให้มีภูมิคุ้มกัน
https://www.facebook.com/ GreeneryThailand/
=================================
#เลี้ยงลูกให้มีภูมิคุ้มกัน
#greeneryherbs
#แม่กรีนเพจเลี้ยงลูกให้มีภูมิคุ้มกัน